ทัวร์นอร์เวย์ NORWAY LOFOTEN TROMSO

23.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้า  หมายเลข 9 เคาน์เตอร์ T สายการบิน Emirates (EK)  โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกทางด้านเอกสารการเดินทางและสัมภาระการเดินทางของท่านให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง

02.00 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK377 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

06.00 น. เดินทางถึง สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง

07.35 น.  ออกเดินทางสู่ สนามบินออสโล ประเทศนอร์เวย์ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK159 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

12.10 น. เดินทางถึง สนามบินออสโล ประเทศนอร์เวย์ หลังจากนั้นนำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)

นำท่านเดินทางสู่ กรุงออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ หนึ่งในเมืองสำคัญทางวัฒนธรรมในยุโรป ตั้งอยู่ขอบด้านเหนือของอ่าวฟยอร์ด (Fjord) ที่ชื่อออสโลฟยอร์ด ตัวเมืองประกอบด้วยเกาะ 40 เกาะ เกาะใหญ่ที่สุดชื่อ Malmøya นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบ 343 แห่ง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญ บางส่วนของภูมิทัศน์ธรรมชาติที่งดงามที่สุดในนอร์เวย์ล้อมรอบเมือง

จากนั้นนำท่านชมด้านนอก พระราชวังหลวงออสโล (Royal Palace Oslo) มีอายุเกือบ 200 ปี เป็นที่ประทับของพระราชา พระราชินี และราชวงศ์ ตั้งอยู่ที่ปลายสุดของถนนคาร์ล โยฮันส์ เกต (Karl Johans Gate) เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1824 เสร็จสมบูรณ์วันที่ 26 เดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ.1849 ระยะเวลา 25 ปี ถือเป็นสมบัติของรัฐและเป็นที่ท างานของพระมหากษัตริย์ รวมถึงเป็นที่ประทับของราชวงศ์ต่างๆ จะเปิดให้เข้าไปเดินชมบรรยากาศภายในเฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น นำท่านผ่านชม สวนประติมากรรมวิกเกอร์แลนด์ (Vigeland Sculpture Park) สวนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสวนประติมากรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะฟรอกเนอร์ เป็นที่ตั้งของรูปแกะสลักชิ้นโบว์แดงชื่อ โมโนลิท แกะสลักจากหินแกรนิตเพียงแท่งเดียวสูง 17 เมตร ใช้เวลาในการสร้างรวม 22 ปี

นำท่านถ่ายรูปด้านหน้า ออสโลโอเปร่าเฮาส์ (Oslo Opera House) แลนดมาร์คสำคัญของกรุงออสโล เป็นศูนย์วัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์ อาคารรูปทรงเลขาคณิตที่สร้างจากกระจกและหินอ่อนขนาดใหญ่สไตล์โมเดิร์น มีดีไซน์อันสะดดุตา ออกแบบให้ดูเหมือนธารน้ำแข็งยักษ์โผล่ขึ้นมาจากน้ำ และมีสะพานที่ลาดเอียงสีขาวโพลน นับเป็นภาพที่งดงามอย่างแท้จริง ท่านสามารถเดินไปตามหลังคาลาดเอียงของโอเปร่าเฮาส์ เพื่อชมทิวทัศน์ของกรุงออสโลจากหลังคาของอาคารแห่งนี้ได้ จากนั้นนำท่านสู่ถนนช้อปปิ้งย่าน คารล์ โจฮันส์เกท (Karl Johans Gate) ถนนที่เป็นเหมือนหนึ่งในแลนด์มาร์คของเมือง สินค้าน่าช้อปมากมายตั้งแต่แบรนด์เนมจนถึงสินค้าท้องถิ่นไม่มีแบรนด์ โดยเฉพาะแบรนด์ “H&M” ที่มีต้นกำเนิดในแถบสแกนดิเนเวีย และกระเป๋าเป้สะพายจากสวีเดนแบรนด์ “Fjallraven” หรือที่เราคุ้นในชื่อ “Kanken” ก็มีแบบให้เลือกมากมาย หรือแบรนด์เนม อาทิ หลุย์วิคตอง, ชาแนล ฯลฯ อิสระให้ท่านเพลิดเพลิน กับการช้อปปิ้ง เลือกซื้อของฝากที่ระลึกตามอัธยาศัย

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร 

นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Quality Airport Hotel Gardermoen หรือเทียบเท่า

เช้า      รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

06.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินออสโล

08.30 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินโบโด โดยสายการบิน Scandinavian Airlines เที่ยวบินที่ SK4104

10.05 น. เดินทางถึง สนามบินโบโด เมืองท่าทางตอนเหนือฝั่งตรงข้ามหมู่เกาะโลโฟเตน **เปลี่ยนนั่งเครื่องบินเล็ก**

10.55 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินเลคเนส โดยสายการบิน Wideroe Airline เที่ยวบินที่ WF808

11.25 น. เดินทางถึง สนามบินเลคเนส นำท่านเดินทางสู่ร้านอาหาร

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองนัสฟยอร์ด (Nusfjord) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) เมืองเล็กๆ น่ารักๆ แห่งหมู่เกาะลอฟโฟเทน ท่านจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันแปลกตา ภูเขาสลับแม่น้ำและทะเลสาบที่สะท้อนภาพเทือกเขาบนผืนน้ำ นำท่านเข้าชม หมู่บ้านชาวประมงนัสฟยอร์ด (Nusfjord Fisherman Village) ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีอีกแห่งของนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้มีการรังสรรค์หมู่บ้านหลากสีสัน ทั้งแดง เหลือง เขียว และยังคงอนุรักษ์บ้านเมืองเก่าไว้อย่างดียิ่ง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย นอกจากนี้เมืองนัสฟยอร์ดยังได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก “UNESCOS” ให้เป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย

นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองฮัมนอย (Hamnøy) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) หมู่บ้านประมงบนเกาะเล็กๆ ที่มีสะพานใหญ่เชื่อมไปสู่หมู่บ้านต่างๆ ทางตอนใต้ของเกาะ บ้านชาวประมงดัดแปลงเป็นที่พัก ทาด้วยสีแดงจนกลายเป็น “สัญลักษณ์” ของเกาะโลโฟเตนที่เผยแพร่เป็นโปสการ์ดไปทั่วโลก

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Eliassen Rorbuer หรือเทียบเท่า

นำท่าน ออกตามล่าแสงเหนือ หรือแสงออโรร่า (โดยรถโค้ช)

(การชมแสงเหนือ หรือแสงโอโรร่าในแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวัน และเวลาดังกล่าว เนื่องจากเป็น ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ)

เช้า      รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม  

นำท่านสู่จุดชม หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที) หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) ประเทศนอร์เวย์มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ด้วยบ้านไม้หลังเล็กๆ เรียงรายริมน้ำกับภูเขาหิมะขาวโพลนในช่วงหน้าหนาว มีความพิเศษกว่าหมู่บ้านอื่นๆ คือตัวบ้านมีสีเหลืองสด ต่างจากหมู่บ้านอื่นๆ ที่มีเป็นสีแดง ตั้งอยู่ที่ตรงข้ามกับภูเขาโอส์สตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นภูเขารูปร่างพีระมิดที่โด่งดังของโลโฟเตน นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านไรน์เนอ (Reine) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที) หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ประกอบด้วยประชากรเพียงสามร้อยคน มีบ้านชาวประมงสีแดงแบบดั้งเดิม ซึ่งส่วนหนึ่งได้ถูกดัดแปลงทำเป็นโรงแรมที่พักเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวแต่ยังคงรูปแบบ Rorbuer ไว้เช่นเดิม หมู่บ้านไรน์เนอ ได้รับการยกย่องจากนิตรสารชื่อดังของนอร์เวย์ให้เป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในหมู่เกาะโลโฟเทน ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านออ (Å Village) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที) เป็นหมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายหลัก E10 ที่มีความเงียบสงบ มีความบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่งดงามยิ่งที่ปลายเกาะใต้สุดเส้นทาง  นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวประมง (Norwegian Fishing Village) ซึ่งท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงที่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะโลโฟเทน ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 250 ปี ในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีสถานที่ต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม อาทิ โรงงานผลิตน้ำมันตับปลาคอด, ร้านขายเบเกอรี่ และร้านขายของที่ระลึกต่าง ๆ อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมหมู่บ้าน และเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย

ค่ำ        รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม   

นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Eliassen Rorbuer หรือเทียบเท่า

นำท่าน ทำกิจกรรมล่าแสงเหนือ ยามค่ำคืน บริเวณโรงแรมที่พัก

(การชมแสงเหนือ หรือแสงโอโรร่าในแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวัน และเวลาดังกล่าว เนื่องจากเป็น ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ)

เช้า      รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองสแตมซุนด์ (Stamsund) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที) หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะเวสต์วอกอย (Vestvågøy) นำท่านเปิดประสบการณ์ใหม่กับกิจกรรม นั่งเรือ Crab Safari by RIB Boat ชมความงดงามของเกาะแห่งนี้พร้อมทั้งทำกิจกรรมจับปูทะเลซึ่งเป็นที่แรกที่มีการจัดกิจกรรมล่องเรือจับปูทะเลในเกาะโลโฟเทน ให้ท่านเพลิดเพลินกับการจับปูทะเล (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง)

หลังจากกิจกรรมจับปูยักษ์ท่านจะได้ลิ้มรสชาติของปูยักษ์โดยชาวท้องถิ่น จะนำไปปรุงให้ท่านได้รับประทานกันแบบสดๆ

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน (เมนูปูยักษ์)

นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง (Lofotr Longhouse Viking Museum) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เข้าชมพิพิธภัณฑ์ ที่ใหญ่และยาวที่สุดในแสกนดิเนเวีย ซึ่งจัดแสดงศิลปะวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวไวกิ้งในอดีตที่ย้ายถิ่นฐานมาปักหลัง ณ ผืนแผ่นดินนอร์เวย์ในปัจจุบัน ท่านจะได้ชมข้าวของเครื่องใช้ตลอดจนการแต่งกายของชาวไวกิ้งในอดีต นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเฮนนิงสวาร์ (Henningsvær) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ปลายแหลมด้านตะวันออกของเกาะโลโฟเทน เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มีความน่ารักและมีประวัติการตั้งถิ่นฐานมายาวนาน นำท่านชม เฮนนิงสวาร์ สเตเดี้ยม (Henningsvær Stadium) ซึ่งมีจุดขายสำคัญอย่างหนึ่ง คือเป็นสนามฟุตบอลที่มีภูมิทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจ จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสนามฟุตบอลที่สวยที่สุดในโลก นอกจากนั้นบริเวณรอบๆ สนามฟุตบอล ยังจะเต็มไปด้วยเรือนตากปลาคอด ที่เป็นสินค้าส่งออกชื่อดังของหมู่บ้านประมงที่นี่แล้ว ยังมีเนินภูเขาเล็กๆ Henningsvær Port Viewpoint สามารถเดินขึ้นถ่ายรูปชมความงามของสถานที่ดังกล่าวได้ อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมหมู่บ้าน และเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองสโววาร์ (Svolvaer) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ศูนย์กลางการเดินทางและเป็นเมืองหลักของหมู่เกาะโลโฟเทน ตั้งอยู่บนเกาะเอาสต์โวเกย (Austvågsøya) เป็นเกาะทางตะวันออกเฉียงเหนือสุดในหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) ตามแนว เวสฟยอร์ด (Vestfjorden) เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่ยังคงทำการประมงอยู่ จุดเด่นของเมืองจะเป็นบ้านชาวประมงสีแดง (RORBUER) ตั้งอยู่ริมทะเลมีอ่าวจอดเรือประมงเรียงรายอยู่มากมาย

ค่ำ        รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Thon Hotel Svolvær หรือเทียบเท่า

นำท่าน ทำกิจกรรมล่าแสงเหนือ ยามค่ำคืน บริเวณโรงแรมที่พัก

(การชมแสงเหนือ หรือแสงโอโรร่าในแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันและเวลาดังกล่าว เนื่องจากเป็น ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ)

เช้า      รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม จัตุรัสกลางเมืองสโววาร์ เก็บภาพความสวยงามของเมืองอย่างเต็มที่จากบริเวณท่าเรือของสโววาร์ท่านจะเห็นบ้านชาวประมงที่ดัดแปลงมาเป็นห้องพักรับนักท่องเที่ยว สีแดงสดสวยงามตัดกับสีท้องฟ้าและน้ำ ทะเลสีครามในบริเวณตัวเมืองจะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านขายของสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกมากมาย อิสระให้ท่านเดินเล่นหรือผ่อนคลายไปกับบรรยากาศที่สวยงามของตัวเมือง และเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์สงครามแห่งความทรงจำ (Lofoten War Memorial Museum) พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเสื้อผ้าและอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ตั้งแต่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงปี ค.ศ. 1940 – 1945 ซึ่งในประเทศนอร์เวย์ถือเป็นอีกหนึ่งบริเวณสมรภูมิการรบระหว่างฝ่ายอักษะและฝ่ายสัมพันธมิตร หลังจากนั้นให้ท่านได้มีเวลาอิสระเดินเล่นภายในเมือง

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองนาร์วิค (Narvik) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 20 นาที) เมืองทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ที่แวดล้อมด้วยภูเขา และ ทะเลอันกว้างใหญ่ มีชื่อเสียงในเรื่องของพื้นที่การเล่นสกีที่มีความเป็นเอกลักษณ์ โดยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมากในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการดูแสงเหนือ พร้อมกับแนวชายฝั่งฟยอร์ดและวิวภูเขาที่รายล้อมเมืองอย่างสวยงาม

ค่ำ        รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Scandic Narvik หรือเทียบเท่า

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ โพลาร์พาร์ค (Polar Park) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เข้าชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเขตขั้วโลกที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่สูงที่สุดของโลก โดยมีสัตว์ป่านานาชนิดให้ได้ชม เช่น หมีขาว สุนัขจิ้งจอก กวางมูส หรือ วัวป่ามัสออค จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองทรอมโซ (Tromsø) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของนอร์เวย์อยู่ในเขตมณฑลทรอมทางตอนเหนือของนอร์เวย์และทางตอนเหนือของคาบสมุทรสแกนดิเนเวียน อีกทั้งยังเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในเขตอาร์คติกเซอร์เคิล (Arctic Circle)

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าชม มหาวิหารอาร์คติก (Arctic Cathedral) มหาวิหารที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สร้างขึ้นในปี 1965 อีกทั้งยังมีโครงสร้างโดดเด่น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมากจากสภาพภูมิทัศน์ในแบบภาคเหนือของนอร์เวย์ มหาวิหารอาร์คติกยังกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของเมืองทรอมโซด้วย  จากนั้นนำท่านสัมผัสกับประสบการณ์ นั่งเคเบิ้ลคาร์ Fjellheisen สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน ยอดเขาที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองทรอมโซได้อย่างชัดเจน และยังเป็นสถานที่ชมแสงเหนือยามค่ำคืนที่ยอดนิยมของทรอมโซอีกด้วย อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความงามเมืองทรอมโซจากมุมสูง

ค่ำ        รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Clarion Hotel The Edge หรือเทียบเท่า

เช้า      รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ Tromso Arctic Reindeer (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) นำท่านเรียนรู้และมีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ นั่งรถลากเลื่อนโดยกวางเรนเดียร์ ยานพาหนะของซานตาครอส ระบบขนส่งที่เก่าแก่ที่สุดของชาวซามิ ระหว่างทางไกด์ท้องถิ่นที่จะบอกเล่าเกี่ยวกับประวัติวัฒนธรรม และการตั้งถิ่นฐานของชาวซามิ ชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บริเวณเมืองทรอมโซ หลังจากกิจกรรมลากเลื่อนกวางเรนเดียร์ อิสระให้ท่านได้ป้อนอาหารกวางเรนเดียร์ด้วยมือของท่านเอง และให้ท่านได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ สนามบินทรอมโซ

16.15 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินออสโล โดยสายการบิน Scandinavian Airlines เที่ยวบินที่ SK4423

18.15 น. เดินทางถึง สนามบินออสโล นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก

ค่ำ        รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Quality Airport Hotel Gardermoen หรือเทียบเท่า

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย......ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบิน

14.00 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK384 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

23.55 น. เดินทางถึง สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง

03.05 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK384 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

12.05 น. เดินทางมาถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ