อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan) อิสตันบูล ประเทศตุรกี

เมืองที่ยังคงฮิตติด Top 10 สำหรับคนไทยเราก็คือ อิสตันบูล ประเทศตุรกี
เพราะที่นี่ความสวยงามและประวัติอันยาวนั้นเล่าไม่รู้จบเลย
นอกจากสถานที่ดังๆ อย่างเช่น สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque), ฮายาโซฟีอา (Hagia Sophia), พระราชวังโดลมาบาเช่ (Dolmabahce Palace), 

ฮิปโปโดรม (Hippodrome) เหล่านี้ล้วนต้องไปเมื่อไปอิสตันบูล

ยังมีอีก 1 สถานที่ ที่ไม่ควรพลาด นั่นก็คือ

“อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน” (Yerebatan)
อุโมงค์เก็บน้ำโบราณขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะซ่อนอยู่ใต้เมืองอิสตันบูลได้ เราอาจมองเห็นทางเข้าเป็นเพียงอาคารเล็กๆ แต่เมื่อก้าวเดินลงบันไดไปเรื่อยๆ ความอลังการก็จะค่อยๆ ปรากฏให้เห็น และแม้ปัจจุบันอุโมงค์เก็บน้ำแห่งนี้จะไม่ได้ใช้เป็นแหล่งเก็บน้ำแล้วแต่ความยิ่งใหญ่ก็ยังหลงเหลือให้เราได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นเสาหินอ่อน

ขนาดใหญ่ถึง 336 ต้นที่แต่ละต้นสูงถึง 9 เมตร เสาเหล่านี้ถูกออกแบบมาอย่างดีในสไตล์โครินเธียน จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบในอุโมงค์กว้างที่สามารถจุน้ำได้มากถึง 100,000 ตัน โดยน้ำที่ส่งมาเก็บที่อุโมงค์เยเรบาตันจะถูกส่งมาตามท่อส่งน้ำจากศูนย์กระจายน้ำที่ป่าเบลเกรด (Belgrade Forest) ซึ่งอยู่ห่างจากอิสตันบูลไปทางเหนือ 19 กิโลเมตร ก่อนจะกระจายและส่งต่อไปยังพระราชวังหลวงแห่งคอนสแตนติโนเปิลและอาคารต่างๆ บนเนินแถบนี้
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตันสร้างตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 6 ในสมัยของ “พระเจ้าจัสติเนียนที่ 1” (Justinian I) แห่งอาณาจักรไบแซนไทน์ เป็นแหล่งเก็บน้ำหลักเรื่อยมา

จนถึงสมัยออตโตมันก็ยังคงเป็นแหล่งน้ำหลักของพระราชวังทอปกาปึ จุดเด่นของอุโมงค์เก็บน้ำแห่งนี้นอกจากความกว้างใหญ่และเก่าแก่แล้วยังมี

“เสาเมดูซ่า” (Medusa Column Bases) จำนวน 2 ต้น เสาที่ด้านบนดูคล้ายเสาทั่วไป แต่ด้านล่างบริเวณส่วนฐานจะมีรูปสลักผู้หญิงมีผมเป็นงูซึ่งก็คือนางเมดูซ่านั่นเอง

เสาเมดูซ่าตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอุโมงค์ และแม้กาลเวลาจะผ่านมาพันกว่าปี แต่เสาเมดูซ่าแห่งนี้ยังคงมีสภาพดีอย่างน่าอัศจรรย์